เมื่อพูดถึงการป้องกันสนิม ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้น ท่อเหล็ก เหล็กกล่อง เหล็กตัว C หลายคนยังลังเลระหว่าง “การพ่นสี/ทาสีกันสนิม” และ “การชุบกัลวาไนซ์ (Galvanizing)” ว่าควรเลือกแบบไหนดี บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่าง จุดเด่น และข้อจำกัดของแต่ละวิธี เพื่อเลือกใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมมากที่สุด
เหล็กชุบกัลวาไนซ์ คืออะไร?
เหล็กชุบกัลวาไนซ์ (Galvanized Steel) คือเหล็กที่ผ่านกระบวนการ ชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot-Dip Galvanizing) เพื่อป้องกันสนิม โดยนำเหล็กไปจุ่มในบ่อสังกะสีหลอมเหลว ทำให้สังกะสีเคลือบติดแน่นทั่วทุกพื้นผิว ทั้งภายในและภายนอก การชุบแบบนี้สามารถให้ชั้นเคลือบหนา 50-250 ไมครอน ซึ่งเพียงพอต่อการป้องกันสนิมได้นานถึง 70 ปี+
ข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์
1. ป้องกันสนิมได้ดีที่สุด อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 70 ปี+
2. ไม่ต้องซ่อมหรือพ่นซ้ำเหมือนการพ่นสี พ่นกันสนิมหรือทาสีกันสนิม ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว ลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
3. ทนแดด ทนฝน และสภาพแวดล้อมกลางแจ้งได้ดีเยี่ยม
4. ผิวเคลือบหนา 50-250 ไมครอน ทนต่อแรงกระแทก
5. มีการเคลียร์หน้าผิวเหล็กเพื่อให้เคลือบติดได้ดียิ่งขึ้น
6. สามารถเคลือบได้ถึงภายในของชิ้นงาน ลดการเกิดสนิมจากภายใน
ข้อเสียของเหล็กชุบกัลวาไนซ์
1. ราคาสูงกว่าเหล็กพ่นสีเล็กน้อย
2. สีของผิวเหล็กจะเป็นโทนเงิน–เทา ไม่สามารถเลือกเฉดสีได้
เหล็กพ่นสี/ทาสีกันสนิม คืออะไร?
คือเหล็กที่เคลือบด้วยชั้นของสีป้องกันสนิม โดยอาจเป็นสีรองพื้นกันสนิมหรือสีทับหน้าเหล็ก เพื่อช่วยลดการสัมผัสของเหล็กกับอากาศและความชื้น วิธีนี้นิยมใช้ในงานทั่วไป เช่น โครงหลังคา รั้ว ประตู เหล็กดัด โครงสร้างในอาคารหรือบางทีเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ เพราะใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มาก ใช้พื้นที่ในการพ่นน้อย อุปกรณ์ที่ใช้ก็หาได้ง่ายตามท้องตลาด
ข้อดีของเหล็กพ่นสี
1. ราคาต้นทุนต่ำกว่าการชุบกัลวาไนซ์
2. ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
3. สามารถเลือกเฉดสีได้ตามต้องการ
4. อุปกรณ์หาได้ง่าย
5. ใช้พื้นที่ในการพ่น/ทาน้อย ทำได้ในพื้นที่จำกัด
6. ไม่ต้องเสียเวลาถอดประกอบใหม่
ข้อเสียของเหล็กพ่นสี
1. อายุการใช้งานสั้นกว่ามาก (ประมาณ 1–3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม)
2. สีหลุดลอกและเป็นสนิมได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อโดนน้ำหรือแดดจัด
3. ต้องบำรุงรักษาและทาสีซ้ำอยู่เสมอ
4. ไม่สามารถพ่นถึงภายในชิ้นงานได้ ต้องผ่าแล้วพ่น/ทาสี ให้เสร็จก่อนทำการเชื่อมใหม่
5. อาจเกิดสนิมได้จากภายใน หากวัสดุนั้นมีลักษณะกลวง หรือมีพื้นที่ด้านใน
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง “เหล็กชุบกัลวาไนซ์” กับ “เหล็กพ่นสี”
| การชุบกัลวาไนซ์ (ชุบสังกะสี) | การพ่นสีกันสนิม | |
|---|---|---|
| อายุการใช้งาน | มากกว่า 70 ปี | 1 - 3 ปี |
| การป้องกันสนิม | ดีเยี่ยม (มีการเคลียร์ผิวเหล็กก่อนทำการเคลือบและมีวิธีเคลือบได้ทั่วถึงทั้งภายนอกและภายใน) | ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสีที่เคลือบและความชำนาญในการเคลือบ) |
| ความทนต่อสภาพอากาศ | ทนแดด ทนฝน ทนความชื้นสูง | สีซีดจาง หลุดร่อนได้ง่ายเมื่อโดนแดดจัด |
| การบำรุงรักษา | แทบไม่ต้องบำรุงรักษา | ต้องพ่นซ้ำเป็นระยะ |
| ต้นทุนรวมระยะยาว | ประหยัดและคุ้มค่ากว่าในระยะยาว | มีความสิ้นเปลืองจากการดูแลซ่อมแซมบ่อย |
| ความสวยงาม | สีเทา เงิน พื้นผิวเรียบเนียน | เลือกเฉดสีได้หลากหลาย |
สรุป: แบบพ่นสี ทาสีกันสนิมกับชุบสังกะสี ชุบกัลวาไนซ์แบบไหนทนกว่ากัน? หากเป้าหมายของคุณคือ ความทนทาน ป้องกันสนิม และไม่ต้องซ่อมบ่อย คำตอบชัดเจนคือ “เหล็กชุบกัลวาไนซ์” เพราะมีชั้นสังกะสีเคลือบติดแน่นกับเนื้อเหล็ก ช่วยป้องกันการกัดกร่อนได้ยาวนานมากกว่า 70 ปี แม้อยู่ในสภาพอากาศรุนแรง เช่น พื้นที่ริมทะเล หรือกลางแจ้ง โดนแดด โดนฝนบ่อยก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องการใช้งานชั่วคราวและมีงบจำกัด เช่น งานตกแต่งภายใน หรือการนำเหล็กไปใช้ในที่ไม่โดนน้ำโดยตรง การใช้เหล็กพ่นสีกันสนิมก็ตอบโจทย์ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและข้อจำกัดในการใช้งาน
บริษัท สยาม สตีล กัลวาในซิ่ง จํากัด
โรงงานของเราติดตั้งระบบการชุบที่ทันสมัยพร้อมบ่อสังกะสีขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในบ่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับงานที่มีชิ้นส่วนเหล็กขนาดยาวได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวด เช่น ASTM A123, BS 729, AS/NZS 4680, JIS H 8641 และ BS EN ISO 1461 กำลังการผลิตกว่า 13,000 ต้น/เดือน (สูงที่สุดในประเทศไทยสำหรับระบบชุบกัลวาไนซ์แบบจุ่มร้อน Hot Dip Galvanizing)
เบอร์โทรศัพท์ 02-705-8755
E-mail : ส่งอีเมลถึงเรา
Official Line: @ssggalvanizing หรือคลิก เพื่อเพิ่มเพื่อน @LINE
#SSG #SiamSteelGalvanizing #RGC
#HotDipGalvanizing #เหล็กกัลวาไนซ์ #มาตรฐานสากล #ชุบกัลวาไนซ์ #ตะแกรงเหล็กชุบกัลวาไนซ์






